ตา-หลาน ติดกลุ่มชาติต่างสมัย 
“หลอเรดาห์”พิชัย คงจะศรี อดีตกาลนักฟุตบอลแผงหน้ากลุ่มชาติไทยแล้วก็สมาคมบอลแบงค์กรุงเทวดาที่เคยมีประสบการณ์เดินทางไปค้าหน้าแข้งประเทศญี่ปุ่นกับกลุ่มระดับดิวิชั่น 2 อย่างสมาคมเทยิน ทั้งยังยังเคยถูกเลือกให้เป็นศิลปินทวีปเอเชียของสหพันธรัฐบอลที่ทวีปเอเชีย(เอเอฟซี) ตอนปี 2528 จากความรู้ความเข้าใจที่มีรอบด้านในเรื่องเกี่ยวกับการฆ่าประตูโดยเฉพาะอย่างยิ่งการขึ้นโหม่งทำคะแนนแปลงเป็นเอกลักษณ์ที่เด่นจนกระทั่งขึ้นเบอร์หนึ่งกลุ่มชาติไทย
เดี๋ยวนี้แม้ว่าจะเลิกเล่นไปสุดแต่ก็ยังคงเดินหน้าสอนบอลแบบจิตสมัครใจเดินทางไปทั้งประเทศถ่ายทอดประสบการณ์วิชาความรู้ที่มีเปิดโอกาสกับบรรดาเด็กๆไม่ค่อยได้รับโอกาศ โดยในอนาคตอันใกล้นี้ตระเตรียมออกสอนบอลฟรีให้กับสถานศึกษาต่างๆในกรุงเทวดารวมทั้งละแวกใกล้เคียงในตอนวันจันทร์-วันศุกร์ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ จะออกพื้นที่ชนบทสำหรับในการสอนบอล ซึ่งหลักสูตรการสอนก็จะเน้นไปที่เรื่องของความสามารถการทำประตูแล้วก็ด้านอื่นๆอดีตกาลจอมโหม่งกลุ่มชาติไทยเปิดเผยว่าถ้าเกิดสถานศึกษาไหนพอใจสามารถติดต่อให้ไปสอนได้เลยโดยไม่ต้องจ่ายเงิน
เรื่องเกี่ยวกับการสอนบอลเว้นเสียแต่สอนบอลสร้างช่องทางให้กับบรรดาเด็กๆแล้วก็เยาวชนแล้วยังเดินหน้าปลุกปั้นหลานชายตนเองอย่าง “กาก้า”พิชญะ อาจจะศรี ลูกชายของ เป็นเยี่ยม นิ่งไธสง กับบุตรสาวของ “น้าหลอ”อย่างเอาจริงเอาจังตั้งแต่หลานชายอายุได้ 2 ขวบเศษเบาๆปั้นมาเรื่อยตั้งแต่เรื่องเกี่ยวกับการสร้างความใกล้ชิดกับบอลสอนเตะบอลช่วงอายุ 3 ขวบให้พุ่งตรงไปที่แนวทางแล้วก็เติมแต่งต่อเติมเสริมแต่งมาเรื่อยจนกระทั่งเดี๋ยวนี้อายุ 13 ปี “กาก้า” สามารถก้าวขึ้นไปติดกลุ่มชาติไทยรุ่นอายุ 12 ปี ก่อนหน้าที่ผ่านมา พร้อมทั้งปัจจุบันนี้เป็นเยี่ยมในขุนศึกสถานที่เรียนกรุงเทวดาคริสเตียนวิทยาลัยและก็เยาวชนของสมาคมกางงค็อก ยูไนเต็ด
“กาก้า”ชอบติดตามตา(พิชัย คงจะศรี) ไปสอนบอลตามพื้นที่ต่างๆทั่วราชอาณาจักรไทยตั้งแต่อายุยังน้อยภายหลังจากผ่านการฝึกฝนเข้มข้นมีความสามารถการเล่นที่ดีก็เริ่มยอดเยี่ยมในคณะทำงานสอนบอลของตาเริ่มเดินทางทั้งประเทศไทยขึ้นไปบนลงห้วยโดยส่วนมากจะออกไปแสดงเรื่องของเดาะบอลและก็การตอบสนองด้วยการโหม่งบอลซึ่งนับได้ว่าเป็นคุณลักษณะเด่นของเครือญาติลูกหนัง “คงจะศรี”
ทุกเมื่อเชื่อวัน พิชัย คงจะศรี จะใช้พื้นที่หน้าบ้านสอนบอลหลานชายหากว่าไม่มีโอกาสได้ไปศึกษากันที่สนามพื้นปูนรอบๆหน้าบ้านถูกปรับให้เป็นลานปั้นจอมบุกความสามารถพิเศษตอนนี้ “กาก้า”สามารถใช้เท้า 2 ข้างได้ดิบได้ดีเสมอกัน แล้วก็ที่สำคัญการโหม่งยังระบุจังหวะรวมถึงการใช้ส่วนต่างๆของร่างกายสัมผัสบอลให้สามารถเล่นตลอดได้ดิบได้ดี สถิติสำหรับในการโหม่งบอลโต้ตอบสำหรับเพื่อการซ้อมกับตา “กาก้า”วัย 13 ปี ทำเป็นสม่ำเสมอแบบไม่ตกพื้นสูงสุดอยู่ที่ 80 กว่าครั้ง
“หลอร์เรดาห์”พิชัย อาจศรี เปิดเผยถึงวิธีสำหรับในการสอนบอลหลานชายที่รักยิ่งว่า “อย่างแรกที่ผมสอนผมเริ่มจากระเบียบความรับผิดชอบก่อนหากไม่มีสองสิ่งนี้จังหวะจะบรรลุความสำเร็จยากมากมาย จากนั้นมาก็จะปูเรื่องของเบสิกความสามารถบอลก่อนจะเข้าระบบกลุ่มนักฟุตบอลทุกคนจะต้องมีความรู้ความเข้าใจเฉพาะตัวที่สุดยอดก่อน เมื่อความยอดเยี่ยมคนจำนวนไม่น้อยมารวมกันประสิทธิภาพกลุ่มก็จะสูงมากขึ้นตามมาสิ่งต่างๆกลุ่มนี้มันจะอยู่กับอาชีพนักเตะไปจนถึงวันตาย สามารถไปเล่นกับคนไหนกลุ่มไหนก็ได้เมื่อจำเป็นต้องเดินบนถนนหนทางบอลอาชีพ”
"หลอเรดาห์" สอนบอลให้กับหลานชาย "น้องกาก้า"